วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

EXCLUSIVE : บทสัมภาษณ์ KURT ANGLE เฉพาะที่ Wrestling Article เท่านั้น!!

EXCLUSIVE : ONLY @ WRESTLING ARTICLE

บทสัมภาษณ์ KURT ANGLE @ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส

         
           สวัสดีแฟนๆมวยปล้ำและแฟนๆ Wrestling Article ทุกๆคนครับ มาถึงบทความนี้ เป็นบทความพิเศษที่เรียกได้ว่า Exclusive สุดๆ เฉพาะที่เว็บไซต์แห่งนี้เท่านั้น! การสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก LIVE TV และทีมงานจาก SPORT PLUS ซึ่งทางตัวผมเองต้องขอบคุณพี่ๆทีมงานทุกคน ทั้งพี่แดเนียล พี่โก้ พี่องุ่น พี่มี่ ตลอดจนพี่คนอื่นๆที่ผมไม่ได้เอ่ยชื่อถึง ผมขอขอบคุณจากใจครับ

           การสัมภาษณ์ครั้งนี้เริ่มตอนเวลา 10 โมงครึ่งของเช้าวันพุธที่ 20 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส ตัวผมเองไปถึงก่อนเวลาค่อนข้างนานเพราะว่าออกเดินทางแต่เช้า (กลัวรถจะติด) ด้วยความที่มีเวลาว่างผมเลยมาเดินสำรวจบรรยากาศห้องสัมภาษณ์ ซึ่งตกแต่งห้องได้สวยงามสมกับเป็นการสัมภาษณ์นักมวยปล้ำระดับโลกจริงๆ
บรรยากาศขณะตระเตรียมงานครับ

ตอนจัดเสร็จเรียบร้อย (รอบแรก)

เห็นดังนั้นก็เลยขอถ่ายภาพกับสถานที่สักหน่อยครับ

          หลังจากเจ้าหน้าที่และทีมงานช่วยกันจัดสถานที่จนได้ดังภาพด้านบนแล้ว ก็ตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบใหม่บางส่วนเพราะต้องการให้การสัมภาษณ์มีความเป็นส่วนตัวและแสดงถึงความเป็น TNA มากยิ่งขึ้น จึงมีการนำ CUT OUT ของ TNA มาเป็นฉากหลังแทน ดังนี้ครับ



ก็เป็นการนำโลโก้จากเดิมด้านบนมาไว้หน้าโต๊ะ และเปลี่ยนป้ายโรงแรมจากสีขาวเป็นชมพูครับ

            หลังจากนั้น KURT ก็เดินทางเข้ามาในห้องครับ โดยมีการ์ดมากมายคอยคุ้มกัน พร้อมทีมงานจาก LIVE TV และจาก TNA ตัวผมก็ได้มีโอกาสถ่ายภาพบรรยากาศมาให้ชมกันด้วยครับ (ทางทีมงานอนุญาตให้ผมเข้ามาถ่ายภาพก่อนเลย ขอบคุณมากๆครับ)

 จังหวะที่ Kurt ออกมาจากห้องพักครับ

ภาพคุณแดเนียล เคิร์ท และผู้บริหารจาก TNA ครับ

               จากนั้นทาง KURT ก็ขึ้นไปนั่งบนโซฟาเตรียมพร้อมให้สัมภาษณ์ครับ ^^ โดย Kurt ขึ้นไปนั่งพร้อมกับพี่แดเนียล ซึ่งจะเป็นล่ามให้ครับ ผมเลยถือโอกาสนี้ถ่ายภาพของทั้งสองมา



           หลังจากนั้นก็จะเป็นการสัมภาษณ์ครับ โดยผู้สัมภาษณ์คนแรกมาจากทีมงานทีวี มีชาวต่างชาติเป็นผู้สัมภาษณ์ สำหรับการถ่ายภาพระหว่างสัมภาษณ์เห็นว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมครับ เพราะจะรบกวนการสัมภาษณ์ในห้องที่ค่อนข้างเงียบมาก ดังนั้นจึงมีภาพมาฝากเฉพาะในช่วงเวลาพักระหว่างสัมภาษณ์เท่านั้นครับ
แอบหันมามองกล้องด้วย เลยแชะซะ!
           เคิร์ทระหว่างสัมภาษณ์ครับ

         ครับ หลังจากทีมแรกสัมภาษณ์เสร็จ ก็ถึงคิวของผม โดยแต่เดิมผมได้เวลาในการสัมภาษณ์ 15 นาที แต่เนื่องจากทีมงานจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดได้ขอเข้ามาสัมภาษณ์ร่วมกัน เวลาสัมภาษณ์เลยเพิ่มขึ้นมาครับ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปอ่านบทสัมภาษณ์กันเลยครับ 

(สัมภาษณ์โดยผม ปูมิ หรือ Jushin Liger แห่ง Wrestling Article เองครับ)
---------------------------------------------------------------------
ปูมิสวัสดีครับเคิร์ท

KURT ANGLEสวัสดีเช่นกัน ยินดีที่ได้พบคุณอีกครั้งครับ (ยิ้ม)

ปูมิ มาไทยครั้งนี้เป็นไงบ้างครับ ต่างจากที่เคยมาเมื่อหลายปีก่อนรึเปล่า?

KURT ANGLE  (หัวเราะ) จริงๆผู้จัดการก็ถามผมนะ ว่าประเทศไทยเป็นไงบ้าง แต่ผมอยากบอกว่า ตอนแรกผมจำไม่ได้เลยว่าเคยมาที่ประเทศไทย (หน้าเขินๆ) คือในช่วงนั้นผมทำงานอยู่กับ WWE ซึ่งเดินทางกันหนักมาก ผมได้อยู่ในแต่ละประเทศอย่างมากก็วันสองวัน และเฉพาะในสนามกับโรงแรมเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากมานั่งรื้อฟื้นความทรงจำ ผมก็พอจะจำการปล้ำในปี 2003 ได้ (Smackdown Unleash in the East) ผมจำได้ว่าผมตื่นเต้นมากๆเพราะถึงแม้ผมจะเดินทางไปทั่วโลกมาแล้วในฐานะนักมวยปล้ำ แต่ผมยังไม่เคยมาปล้ำที่ไทยมาก่อน (ยิ้ม)

             ผมจำได้คร่าวๆแค่นี้ล่ะครับ คือชีวิตผมต้องเดินทางตลอดเวลา ตั้งแต่สมัยเป็นนักมวยปล้ำสมัครเล่นผมก็ต้องเดินทางไปกว่า 44 ประเทศทั่วโลกแล้ว ดังนั้นเลยไม่มีเวลาสร้างความทรงจำในประเทศใดเป็นพิเศษครับ ต้องขอโทษจริงๆ

ปูมิ ไม่เป็นไรครับ งั้นเรามาเริ่มถามกันเลยดีกว่า จากที่ผมได้อ่านหนังสือชีวประวัติของคุณมา ผมเห็นคุณพูดถึงสถิติการปล้ำในปีแรก (มวยปล้ำสมัครเล่น) ที่ชนะเพียง 2 และแพ้ถึง 14 แมตช์ ซึ่งนั่นทำให้คุณร้องไห้และเสียกำลังใจอย่างหนัก ดังนั้นอะไรคือแรงผลักดันที่ทำให้คุณสู้จนสามารถมีวันนี้ได้ครับ

KURT ANGLE (ตอบอย่างจริงจัง) ผมใช้แรงบันดาลใจจากครอบครัว ผมมีพี่ชายที่เป็นนักมวยปล้ำสมัครเล่นและประสบความสำเร็จอย่างสูง ดังนั้นผมจึงไม่ต้องมองหาใครอื่นเลยนอกจากคนในครอบครัวผมนั่นล่ะ ผมเพียงแค่อยากจะเป็นให้ได้เหมือนพี่ชายของผม ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมตัดสินใจสู้ต่อ ผมฝึกซ้อมหนักขึ้น ให้เวลากับมันมากขึ้น ทำทุกอย่าง ที่คิดว่าจะช่วยให้ผมเก่งขึ้นได้ สิ่งเหล่านี้คือแรงบันดาลใจและแรงผลักดันที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้ ผมคิดว่าถ้าพี่ชายของผมกลายเป็นน้องคนเล็กของครอบครัว เขาก็สามารถเป็นแชมป์เหรียญทองโอลิมปิกได้เหมือนกัน เพราะการเป็นน้องคนเล็กนั้น คุณจะได้รับการชี้แนะจากเหล่าพี่ๆ ผมจึงภูมิใจและดีใจที่ได้เป็นน้องเล็กของครอบครัว (ยิ้ม)

จริงๆแล้วสิ่งที่ยากที่สุดก็คือการเป็นนักกีฬามวยปล้ำนี่ล่ะ (หัวเราะเบาๆ) ผมไม่ชอบกีฬานี้เลยในตอนแรก เพราะผมไม่อยากจะแข่งขันอะไรโดยให้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผมเพียงคนเดียว ผมชอบการแข่งขันเป็นทีมมากกว่า การแข่งขันคนเดียวคือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด และแม้แต่ในทุกวันนี้เวลาขึ้นปล้ำผมก็ยังคงกลัวเหมือนเดิม แต่สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปก็คือเมื่อผมเจอความกลัว ผมเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมัน และพยายามเปลี่ยนความกลัวเหล่านั้น ให้กลายเป็นพลังที่จะผลักดันให้ผมประสบความสำเร็จ 

เมื่อไรก็ตามที่ผมตกอยู่ในสภาวะกลัวและกังวลมากๆ ผมก็จะสามารถรีดเร้นสิ่งที่ดีที่สุดออกมาได้เสมอ ยกตัวอย่างในตอนที่ผมปล้ำแมตช์ชิงเหรียญทองโอลิมปิก ผมประหม่ามากๆและคิดว่าคู่ต่อสู้น่ากลัวเหลือเกิน ผมก็คิดในแง่ดีนะ คือถ้าผมเก่งจริง ผมก็ต้องเอาชนะเขาให้ได้ ดังนั้นผมพอจะสรุปให้คุณฟังได้ว่า ยิ่งผมกังวลหรือกลัวมากเท่าไหร่ ความสุดยอดของผมก็จะแสดงออกมาให้เห็นมากเท่านั้น

นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด สำหรับใครหลายๆคน กีฬามวยปล้ำถูกมองว่าเป็นกีฬาที่เต็มไปด้วยความรุนแรง คุณมองเรื่องนี้ว่าอย่างไรคะ?

Kurt Angle – สิ่งหนึ่งที่กีฬามวยปล้ำแตกต่างกับรายการอื่นๆทางโทรทัศน์ก็คือการเอากีฬามาผสมเข้ากับการแสดง กีฬามวยปล้ำจะมีสตอรี่ไลน์ (บทบาท เรื่องราว) และมีแมตช์การปล้ำที่บางครั้งอาจจะมีบทบาทเรื่องราวปะปนอยู่ด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราไม่เคยพยายามจะก้าวข้ามศีลธรรมโดยใช้ความรุนแรง รวมไปถึงเรื่องเพศอย่างเกินกว่าเหตุมาสร้างความน่าสนใจให้รายการของเรา แน่นอนคุณอาจจะเห็นการใช้เก้าอี้ฟาดหัวกัน  แต่นั่นก็คือสิ่งที่มีการป้องกันไว้อย่างดีแล้ว 

              เรามี 3 สิ่งต้องห้ามในการเขียนสตอรี่ไลน์ (บทบาท เรื่องราว) นั่นก็คือเรื่อง ฆาตกรรม , กักขัง และโจรกรรมแบบโหดเหี้ยม แม้คุณจะเห็นเรื่องเหล่านี้จนเป็นปกติในรายการซีรี่ย์ที่มีอยู่มากมาย แต่คุณจะไม่ได้เห็นในรายการมวยปล้ำ นั่นเพราะเราคำนึงอยู่เสมอว่ากลุ่มเป้าหมายที่ชมรายการมวยปล้ำในปัจจุบันส่วนใหญ่คือเยาวชน ซึ่งเราไม่อยากให้พวกเขาได้รับสื่อทางด้านความรุนแรงมากจนเกินไป

ปูมิ คุณคิดอย่างไรกับเรท PG ในวงการมวยปล้ำ?

KURT ANGLE (หัวเราะดัง) มันขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายของสมาคมแต่ละสมาคม ในกรณีของ TNA เราออกอากาศที่สหรัฐอเมริกาทาง SPIKE TV ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคือคนอายุประมาณ 18 – 40 แต่สำหรับ WWE พวกเขาออกอากาศทาง USA NETWORK ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเด็กลงไปถึงระดับเด็กเล็กๆ ดังนั้นด้วยความที่ TNA เล็งเห็นว่าในปัจจุบันแฟนมวยปล้ำอายุน้อยลงทุกวัน ทางสมาคมจึงใช้นโยบายนำเรท PG มารวมในรายการแต่ก็คำนึงถึงแฟนดั้งเดิมด้วย

                 ดังนั้นผมจะอธิบายง่ายๆนะ รายการของเราเริ่มฉายทาง SPIKE TV เวลา สามทุ่มไปจนถึงห้าทุ่ม ในชั่วโมงแรกของรายการคือสามทุ่มถึงสี่ทุ่ม เราประเมินว่าเป็นเวลาที่ยังมีเด็กๆรับชมอยู่ ดังนั้นเราจึงทำชั่วโมงแรกของรายการให้เป็นเรท PG ก่อนที่ในชั่วโมงหลังรายการของเราจะเปลี่ยนจากเรท PG ไปจนบางครั้งเกือบจะเป็นเรท R

แต่ผมคิดว่า WWE คงเตรียมจะเอาเรท PG ออกในเร็วๆนี้ล่ะ ยังไงเสียผมคิดว่ามันเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้นนะ เหตุผลหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องการลงเล่นการเมืองของ Linda Mcmahon นั่นล่ะ พอผ่านตรงนี้ไปก็คงมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับ WWE ในหลายๆอย่าง อย่างไรก็ตามผมคิดว่าแนวทางของ TNA ณ เวลานี้เป็นแนวทางที่ถูกต้อง ตอนนี้สิ่งที่ TNA แตกต่างกับ WWE อย่างชัดเจนก็คือเรื่องของการมี “เลือด” ปรากฏอยู่ในรายการ 

ผมคิดว่าการที่เอาเลือดออกไปอย่างสิ้นเชิงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะถึงแม้กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ในทุกวันนี้จะเป็นเด็กๆ แต่เราก็ไม่ควรละเลยถึงแฟนๆผู้ใหญ่ดั้งเดิมของเรา และถึงแม้เราจะไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ แต่เราก็จะพยายามทำให้ทุกคนได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ เราอยากทำให้เด็กๆมีความสุข เราจึงมีนักมวยปล้ำอย่าง Shark Boy (ในขณะนั้นผมหลุดหัวเราะขึ้นมา เคิร์ทเลยหันมายิ้มให้กับผมแล้วบอกว่า “นายรู้ใช่ไหมว่าผมอยากพูดอะไร”) นี่คือตัวอย่างของการปรับตัวไปสู่แฟนรุ่นเยาว์ สำหรับแฟนๆดั้งเดิม เรามีนักมวยปล้ำอย่าง Ric Flair ตลอดจนนักมวยปล้ำดีๆมากมาย 

คุณเห็นไหม? ถึงแม้เราจะตอบสนองความต้องการของทุกคนไม่ได้ แต่เราก็พยายามจะทำให้ทุกคนพอใจมากที่สุด นี่คือสิ่งที่เราต้องการจะทำให้สำเร็จโดยเร็ว สรุปง่ายๆก็คือเราใช้การแบ่งช่วงเวลาเป็นเวลาสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงการเขียนเนื้อเรื่องให้สามารถดึงดูดทั้งผู้หญิงและผู้ชาย (หันไปยิ้มกับทีมงาน)

นักข่าวจากข่าวสดในฐานะที่คุณเป็นนักมวยปล้ำอาชีพและนักมวยปล้ำสมัครเล่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง คุณมีคำแนะนำอย่างไรต่อเยาวชนไทยที่อยากเป็นนักมวยปล้ำ?

Kurt Angleผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเยาวชนชาวไทยที่อยากเป็นนักมวยปล้ำ นั่นก็คือต้องมีความตั้งใจที่แน่วแน่ ต้องฝึกอย่างหนัก และนักมวยปล้ำอาชีพจำเป็นที่จะต้องมีความสามารถในการกีฬาหลากหลายรูปแบบ นักมวยปล้ำหลายคนมีพื้นฐานมาจากการเป็นนักมวยปล้ำสมัครเล่น เป็นนักอเมริกันฟุตบอล เป็นนักบาสเก็ตบอล เป็นนักมวย หลายต่อหลายอย่าง คือนักมวยปล้ำอาชีพจำเป็นที่จะต้องมีพื้นฐานในการเป็นนักกีฬาที่ดีมาก่อน จากนั้นเมื่อพวกเขาโตขึ้นพื้นฐานทางการกีฬาเหล่านี้ก็จะทำให้คุณเหนือกว่าคนอื่นๆที่มาฝึกมวยปล้ำโดยไม่มีพื้นฐานกีฬาอะไรเลย

              สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือการสนับสนุน เยาวชนจำเป็นที่จะต้องมีโรงฝึกกีฬาเพื่อสนับสนุนความก้าวหน้าของพวกเขา และเมื่อมีการจัดทำสิ่งเหล่านี้เมื่อไหร่ สิ่งต่อไปก็คือหน้าที่ของตัวเยาวชนที่จะไปสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง อย่างเช่นตัวเขาที่เริ่มจากการเป็นนักมวยปล้ำสมัครเล่นและสร้างชื่อด้วยการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกก่อนจะมาเล่นมวยปล้ำอาชีพ ดังนั้นเมื่อเยาวชนสร้างชื่อให้ตนเองจนมีชื่อเสียงผสมกับมีความสามารถที่ดีแล้วจึงค่อยเอาทักษะเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการเป็นนักมวยปล้ำอาชีพ

                สิ่งที่ผมอยากแนะนำสำหรับชาวไทยและชาวเอเชียอื่นๆก็คือ หากคุณอยากจะเป็นนักมวยปล้ำอาชีพ สถานที่ที่คุณควรจะไปที่สุดก็คือญี่ปุ่น ที่นั่นมีสมาคมมวยปล้ำที่ยอดเยี่ยมมากมาย คุณควรจะไปหาประสบการณ์และเรียนรู้เกี่ยวกับมวยปล้ำที่นั่น เอาความสามารถทางการกีฬาของคุณไปแสดงออกที่นั่น อย่างเช่นสำหรับคนไทย คุณไปฝึกเอากีฬาประจำชาติอย่างมวยไทยมาประยุกต์ให้ใช้ในกีฬามวยปล้ำก็ได้ นั่นยิ่งจะสร้างความโดดเด่นให้คุณ (ยิ้ม) 

               คุณจะเห็นนะว่าผมพูดถึงเรื่องของการนำทักษะจากกีฬาอื่นมาใช้อยู่เสมอ นั่นเพราะผมคิดว่าหากเราจะเห็นนักมวยปล้ำที่ดี เราควรจะมีความสามารถหลากหลาย ยิ่งกับกีฬามวยปล้ำแล้ว ยิ่งคุณมีมาก คุณก็ได้เปรียบมาก ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับนักมวยปล้ำก็คือทักษะทางการแสดง การพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก มันเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในตอนนี้ นอกจากนี้แล้วคุณยังจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องจิตวิทยาเพื่อใช้ในการดึงดูดแฟนๆด้วย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือการจัดตั้งสมาคมเพื่อสนับสนุนพวกเขาและสอนพวกเขาให้เข้าใจถึงกีฬามวยปล้ำอย่างแท้จริง

นักข่าวจาก LIVE TVในฐานะที่คุณได้แชมป์มวยปล้ำเหรียญทองโอลิมปิก คุณมีอะไรอยากจะแนะนำกับนักมวยปล้ำชาวไทยในการแข่งโอลิมปิกไหม?

Kurt Angle แน่นอน! ผมจะยกตัวอย่างในกรณีของผมนะ จุดเริ่มต้นของผมคือการเริ่มฝึกมวยปล้ำในชมรมเล็กๆตั้งแต่ 5 ขวบ พอโตขึ้นในระดับประถม ผมก็เลือกที่จะปล้ำกับคนระดับมัธยม และพอผมขึ้นไปอยู่ในระดับมัธยม ผมก็เลือกที่จะปล้ำกับคนในระดับมหาวิทยาลัย สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความตั้งใจและความกล้าที่จะพัฒนาตนเอง นั่นคือสิ่งที่นักมวยปล้ำทุกคนควรจะมี

                    ในตอนที่ผมได้แชมป์โอลิมปิกนั้น ผมเป็นนักมวยปล้ำคนเดียวที่มาจากดิวิชั่น 2 ของลีกมวยปล้ำสมัครเล่นแห่งสหรัฐอเมริกา ผมสามารถเอาชนะนักมวยปล้ำจากมหาวิทยาลัยเก่งๆจาก โอคลาโอม่า แอตแลนต้า ริโซน่า ซึ่งอยู่ในดิวิชั่น 1 ผมอยากให้ทุกคนมีความพยายามและรักความก้าวหน้า ในช่วงที่ผมสามารถเอาชนะทุกคนในแถบที่ผมอาศัยอยู่ได้ ผมก็ตัดสินใจเดินทางไปในแต่ละรัฐเพื่อสู้กับคนเก่งกว่า จนมีโอกาสได้ปล้ำกับนักมวยปล้ำระดับชาติและได้เดินทางไปรอบโลกเพื่อฝึกกับนักมวยปล้ำเก่งๆ และนั่นทำให้ผมได้พัฒนาตนเองจนสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาได้ (หัวเราะกับทีมงาน)

ปูมิ คุณเป็นนักมวยปล้ำเพียงไม่กี่คนที่สามารถคว้าแชมป์สูงสุดจากประเทศญี่ปุ่น (IWGP CHAMPIONS) และจากอเมริกา (ทั้งจาก TNA และ WWE) อะไรคือสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างมวยปล้ำอเมริกาและญี่ปุ่นครับ?

Kurt Angle(ทำหน้าจริงจัง) ผมคิดว่ารูปแบบของมวยปล้ำญี่ปุ่นมันรุนแรงกว่ากว่าของอเมริกาเยอะเลยนะ พวกญี่ปุ่นจะปล้ำเหมือนไม่มีอะไรจะเสีย จะใส่กันจริงจังมากๆ พวกเขาจะสนใจในเรื่องของเกียรติยศและความภูมิใจมากกว่าความปลอดภัย ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะสำหรับนักมวยปล้ำอาชีพ ยกตัวอย่างตอนใส่ท่า Suplex ถ้าเป็นในอเมริกาเราจะป้องกันส่วนคอแล้วให้ส่วนหลังลงพื้น แต่สำหรับในญี่ปุ่น พวกเขาจะให้หัวคู่ต่อสู้กระแทกพื้น และเรียกท่านั้นว่า Brain Buster  

               ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมภูมิใจอย่างมากที่ได้เป็นแชมป์ IWGP ในช่วงระยะหนึ่ง เพราะมันทำให้ผมได้เรียนรู้และได้ประสบการณ์จากการปล้ำกับนักมวยปล้ำเก่งๆอย่าง Yuji Nagata , Shinsuke Nakamura และ... เอ่อ... (ปูมิ – Tanahashi) อ่า ใช่ๆ Tanahashi ผมสนุกมากกับการปล้ำในญี่ปุ่น แต่พอจบแมตช์แต่ละครั้งแล้ว ร่างกายผมเหมือนจะระเบิด ผมปวดร้าวไปทั้งตัวไม่ว่าจะเป็น หัว คอ หลัง หรือกระทั่งขา ถึงกระนั้นผมก็ไม่คิดมากอะไรกับเรื่องนี้นะ เพราะผมคิดว่ามวยปล้ำญี่ปุ่นคือการต่อสู้ที่มีเกียรติระหว่างนักสู้สองคน ที่เราเห็นมวยปล้ำญี่ปุ่นดูรุนแรงไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการทำร้ายคู่ต่อสู้หรอก เพียงแต่เขาต้องการทำให้กีฬาชนิดนี้เป็น “จริง” ที่สุดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ผมจึงเคารพวิธีคิดของชาวญี่ปุ่นเหลือเกิน
                '
                 สำหรับมวยปล้ำอเมริกานั้นเราถูกสอนให้คิดถึงเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะว่ามวยปล้ำเป็นเรื่องที่อันตราย และในอเมริกามีแนวคิดทางธุรกิจที่ว่าหากคุณต้องการจะเป็นนักมวยปล้ำระดับสูง คุณก็ต้องสามารถออกทีวีได้ในทุกๆสัปดาห์ ดังนั้นนักมวยปล้ำอย่าง Kurt Angle จึงไม่สามารถบาดเจ็บได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ตลอดการปล้ำผมบาดเจ็บหนักเพียงไม่กี่ครั้ง ซึ่งนั่นเป็นเหตุที่ทำให้ผมสามารถไต่เต้าขึ้นมาได้อย่างมั่นคงไม่ขาดตอน อย่างไรก็ตามผมมองว่าคนอเมริกาใส่ใจกับความปลอดภัยของนักมวยปล้ำมากกว่าญี่ปุ่นเยอะเลยนะ 

                มีเรื่องที่ผมคาใจอยู่มาก คือผมเป็นคนที่ระวังตัวเองมาโดยตลอดนะ แต่พอไปปล้ำที่ญี่ปุ่นผมไปไม่เป็นเลยตอนเจอเหวี่ยงแล้วคอผมกระแทกพื้น มันทำให้ผมมีอาการบาดเจ็บที่คอไปนานกว่า 2 เดือน (เงียบไปสักพัก) คือผมมั่นใจว่าพวกคุณไม่อยากเห็น Kurt บาดเจ็บใช่ไหมล่ะ?!!(หัวเราะ) แต่ก็อย่างว่าล่ะ ผมประทับใจการปล้ำในญี่ปุ่นมากๆ โดยเฉพาะแมตช์ที่ผมเจอกับ Yuji Nagata ที่ผมถือว่าเป็นแมตช์ที่ดีที่สุดแมตช์หนึ่งในชีวิตของผม มันทำให้ผมประทับใจจนถึงขนาดติดตามดูผลงานของ Nagata ตลอดเวลาที่มีโอกาสเลยล่ะ!

นักข่าวจากข่าวสด เมื่อวานนี้คุณไปเยี่ยมเด็กๆที่บ้านราชวิถี คุณมีความรู้สึกอย่างไรบ้างคะ?

Kurt Angleผมมีลูกอยู่ 3 คนครับ แต่พอเป็นนักมวยปล้ำก็ไม่ค่อยได้เจอกัน ดังนั้นการที่ได้ไปพบเจอเด็กๆที่บ้านราชวิถีจึงเป็นทริปที่ดีที่สุดในการมาไทยครั้งนี้เลย พวกเด็กๆมีมารยาทที่ดีและต้อนรับผมได้อย่างน่าประทับใจจริงๆ ผมอยากบอกกับทุกๆคนว่า หากวันหนึ่งคุณประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว อย่าลืมที่จะหันกลับมามองเด็กๆเหล่านี้บ้าง ผมภูมิใจและดีใจกับโครงการนี้ของ LIVE TV มากๆ ผมได้นำขนมมามอบให้กับเด็กๆ ตลอดจนใช้ความมีชื่อเสียงของผมให้เด็กๆได้ใกล้ชิด และผมก็ดีใจที่เห็นพวกเขามีความสุขและพยายามเข้ามาพูดคุย เข้ามาหอมแก้ม(พูดเสร็จก็ทำท่าประทับใจมาก) รวมไปถึงร้องเพลงเพื่อขอบคุณผม มันทำให้ผมตื้นตันใจและเสียน้ำตา 

                      คุณจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้เมื่อคุณมีครอบครัว ผมเห็นเด็กด้อยโอกาสเหล่านี้ ผมก็อยากที่จะมอบโอกาสให้แก่พวกเขาแม้เพียงสักนิด เพราะคุณก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าในภายภาคหน้าเด็กๆพวกนี้อาจจะได้เป็นคนใหญ่คนโตในสังคมก็ได้ ดังนั้นผมอยากให้เหล่าผู้มีชื่อเสียงที่มีเงินมากมาย ช่วยดูแลเด็กเหล่านี้ ให้เขาได้มีความสุขบ้าง เพราะพวกเขาไม่อาจมีความสุขอันสดใสและความอบอุ่นจากพ่อแม่เหมือนเด็กคนอื่นๆเลย (เงียบไปสักพัก) หากเป็นไปได้ผมก็อยากจะรับเด็กพวกนี้ไปเลี้ยงนะ ผมไม่สนใจเรื่องเชื้อชาติหรอก ผมเพียงคิดว่าหากผมเริ่มทำสิ่งนี้ ก็คงจะมีคนดังอีกมายหันมาช่วยเหลือเด็กๆเหล่านี้ สุดท้ายผมสัญญาว่าหากเป็นไปได้ผมจะมาเยี่ยมเด็กๆพวกนี้อีกแน่นอนครับ...


Kurt กับเด็กที่บ้านราชวิถีครับ (ติดตามได้ใน ENTRY ล่างๆครับ)

ปูมิ คำถามสุดท้ายนะครับ เวลาจะหมดแล้ว ผมอยากให้ Kurt ฝากถึงแฟนๆชาวไทยว่าทำไมคนไทยควรจะชม TNA

Kurt Angleก่อนอื่นผมอยากให้คนไทยมองแบบนี้นะครับ ตอนนี้ทาง TNA เซ็นสัญญากับ LIVE TV ซึ่งจะทำให้คนไทยสามารถติดตามดูมวยปล้ำได้ง่ายขึ้น จากนั้นมองถึงในแง่ขององค์กร ทั้ง TNA และ LIVE TV คือองค์กรที่เติบโตอย่างรวดเร็วมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพขององค์กรได้เป็นอย่างดี เป้าหมายของผมก็คือต้องการทำให้ TNA เป็นหนึ่งในวงการมวยปล้ำ สำหรับประเทศไทยนั้น ทาง TNA ได้เซ็นสัญญาเป็นประเทศแรกในเอเชีย ซึ่งผมรับประกันได้ว่าในเวลาอีกไม่นาน การเซ็นสัญญาครั้งนี้จะเป็นการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะเราจะกลายเป็นสมาคมที่ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างแน่นอน เรามีนักมวยปล้ำในสังกัดที่ยอดเยี่ยมกว่า WWE และถึงแม้ WWE จะครองตลาดในอเมริกาได้มากที่สุด แต่ TNA จะเข้ามาครองตลาดเอเชียซึ่งเป็นทวีปที่มีประชากรเยอะที่สุดในโลก ดังนั้นหาก WWE อยากจะครองตลาดอเมริกาก็ทำไป แต่ TNA จะครองเอเชียทั้งหมด!!

ปูมิ ขอบคุณมากเลยที่ให้เกียรติกับทาง Wrestling Article ครับ 

Kurt Angle ไม่เป็นไรครับ สุดท้ายนี้ผมอยากจะฝากทิ้งท้ายไว้ซะหน่อยว่าขอบคุณทาง LIVE TV ขอบคุณทีมงานนักข่าว สำหรับการสนับสนุนเราเสมอมา  และผมหวังว่าจะได้พบและร่วมงานกับพวกคุณอีกในภายภาคหน้า  และเวลานี้ทาง TNA ได้พูดคุยกับทาง LIVE TV เรื่องการจัดมวยปล้ำสดๆในไทยแล้ว แต่ผมยังไม่สามารถสัญญาอะไรกับแฟนๆได้นอกจากบอกว่าหากจะมีการจัดมวยปล้ำขึ้นมาจริงๆ เค้าจะเดินทางมาปล้ำที่ไทยเป็นที่แรกอย่างแน่นอน!!! (เสียงปรบมือเกรียวกราว!!)

            ครับ ก็จบลงแล้วสำหรับบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ และเนื่องจากเราสัมภาษณ์เกิดเวลามากว่ายี่สิบนาที ทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพร่วมกันหลังงานได้ เป็นเรื่องท่าน่าเสียดายทีเดียวครับ อย่างไรก็ตามผมได้ถ่ายภาพบรรยากาศเล็กๆน้อยๆเอาไว้ เพื่อนำมาฝากแฟนๆมวยปล้ำชาวไทยครับ ขอบคุณพี่ๆทีมงาน LIVE TV อีกครั้งที่ทำให้ผมและแฟนมวยปล้ำชาวไทยได้มีโอกาสในการดูมวยปล้ำดีๆครับ ขอบคุณมากครับ ^^

 บรรยากาศตอนหลังเสร็จงานครับ KURT กลับไปเตรียมตัวเพื่อไป PARAGON ต่อ


 ปล. บทความนี้มีลิขสิทธิ์โดย Wrestling Article และผู้ก๊อบปี้บทความหรือรูปภาพใดใดไปมีความผิดตามกฏหมายนะครับ หากมีปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหา หรือต้องการพูดคุยกับผม สามารถติดต่อได้ที่ส่วน comment เลยครับ ขอบคุณครับ

4 comments:

ADOBE กล่าวว่า...

น่าจะชวนผมไป เด๋วผมไปเป็นร่ามไห้ ก้อยังดี ห้าห้า POPPII

The KalciO กล่าวว่า...

ขอบคุณครับๆ

แล้วได้ถามอนาคตการปล้ำของเคิร์ทรึเปล่าเอ่ย????

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เป็นบทสัมภาษณ์ที่ดีเยี่ยมเลย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณมากเลยนะครับ

บทสัมภาษณ์ดีมากเลย

แสดงความคิดเห็น